‘ตรีนุช’ ย้ำบิ๊กร.ร.-เขตพื้นที่ฯ แจกเงินเยียวยา ‘น.ร.-ผปค.’ โปร่งใส เตรียมแผนฉีดวัคซีนเด็ก

2021-09-09 15:02:54 675
‘ตรีนุช’ ย้ำบิ๊กร.ร.-เขตพื้นที่ฯ แจกเงินเยียวยา ‘น.ร.-ผปค.’ โปร่งใส เตรียมแผนฉีดวัคซีนเด็ก

เมื่อวันที่ 9 กันยายน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบาย สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลให้กระบวนการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การเรียนการสอนสอดรับกับพื้นที่

เมื่อวันที่ 9 กันยายน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายให้กับครู ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลให้กระบวนการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การเรียนการสอนสอดรับกับพื้นที่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนต้องทำงานหนัก ขณะเดียวกัน ตนและผู้บริหารศธ. ก็ปรับกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ยืดหยุ่น ทั้งการลดภาระครู การประเมินต่าง ๆ ของนักเรียน ทั้งการทอสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต การทดสอบความสามาถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ หรือเอ็นที และการทดสอบอื่น ๆ ที่ต้องลดลง

“ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย และได้จัดทำโครงการลดภาระให้กับเด็กและครอบครัว ให้ได้รับเงินเยียวยาคนละ 2,000 บาท ในทุกสังกัด ขอย้ำให้ผู้บริหารเขตพื้นที่ฯ ผู้บริหารโรงเรียน และครูนำเงินในส่วนนี้มอบให้ถึงมือ นักเรียนและผู้ปกครองทุกคนอย่างรวดเร็ว โปร่งในและตรวจสอบได้ ส่วนที่มีคนทำคลิปขอบคุณรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เคยมีนโยบายไปสร้างภาระให้ครูต้องทำคลิปขอบคุณ’ เงินเยียวยานักเรียน เป็นความตั้งใจช่วยบรรเทาภาระของผู้ปกครองในช่วงโควิด-19 ผู้ปกครองหรือนักเรียนไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงความขอบคุณในรูปแบบใดทั้งสิ้น”น.ส.ตรีนุชกล่าว

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า นอกจากเงินเยียวยาแล้ว นายกฯ ยังมีข้อห่วงใยเรื่องการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก ก่อนหน้านี้มีการฉีดวัคซีนให้ครู ซึ่งได้ฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาไปแล้วกว่า 70% และจะทยอยฉีดไปเรื่อยๆจนครบ เพื่อให้เด็กสามารถไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ได้มีการเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนให้กับเด็กตั้งแต่อายุ 12-18 ปีแล้ว ในส่วนของศธ. มีการเตรียมพร้อมข้อมูลนักเรียน และจะมีการพูดคุยกับสธ. และกระทรวงมหาดไทย(มท.) กรณีถ้ามีวัคซีนเข้ามา เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนให้รวดเร็วที่สุด และคำนึงด้วยว่า จะต้องเป็นวัคซีนที่เหมาะสมในการฉีดให้กับเด็ก ส่วนการเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียน จะมีการทำงานควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีน ซึ่งต้องยอมรับว่าต้องอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปอีกระยะ ทำอย่างไรจะทำให้อยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ได้โดยที่เด็กไม่ขาดการเรียนรู้ ดังนั้นจึงต้องวางแผนร่วมกับสธ. ชุมชน และมท. ในการเปิดเรียนในบางพื้นที่ ที่มีความพร้อม โดยศธ.ได้ทำโครงการ Sandbox Safety Zone in School สำหรับโรงเรียนประจำ ตามมาตรการของสธ. จำนวน 44 โรงเรียน ระยะที่ 2 เตรียมการในเรื่องการเปิดภาคเรียน ซึ่งต้องประเมินจากสถานการณ์ภาพรวม

เครดิต: https://www.matichon.co.th/education/news_2930834

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @EEXAM

แท็กข่าวยอดนิยม

ข่าวการศึกษา